รีวิว Infinite (2021)
Infinite ภาพยนตร์แนวแอ็กชันไซไฟ ผลงานผู้กำกับโดย Antoine Fuqua เรื่องราวที่ได้ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง The Reincarnationist Papers โดยเล่าเรื่องราวของ Evan Michaels ชายหนุ่มที่มักเห็นภาพหลอนเกี่ยวกับชีวิตในอดีต จนได้รับการติดต่อจากกลุ่มองค์กรลับที่เรียกตัวเองว่า Infinite ซึ่งเผยให้เห็นว่าเขาเองได้เป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มคนที่สามารถกลับชาติมาเกิดได้ และเก็บรักษาความทรงจำจากชาติก่อนเอาไว้ Evan ต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังใหม่และต่อสู้กับศัตรูที่พยายามทำลายล้างมนุษยชาติ
หนังเรื่องนี้ได้เล่าเรื่องราวของ Evan Michaels ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในฟิลาเดลเฟียที่มักเห็นภาพหลอนเกี่ยวกับชีวิตในอดีต เช่น สงครามโลกครั้งที่สอง การปฏิวัติฝรั่งเศส และยุคอียิปต์โบราณ เมื่อตัดสินใจไปพบแพทย์ก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภทและได้รับการรักษาจากจิตแพทย์มาหลายปี จนวันหนึ่งเขาได้รับการติดต่อจากกลุ่มองค์กรลับที่เรียกตัวเองว่า Infinite ที่เผยให้รู้ว่าเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มคนที่สามารถกลับชาติมาเกิดได้และเก็บรักษาความทรงจำจากชาติก่อนเอาไว้ พร้อมกับบอกว่า Infinite เป็นองค์กรที่มีหน้าที่ปกป้องโลกจากภัยคุกคามต่างๆ
Evan ได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับกลุ่ม Infinite ในตอนแรก แต่ก็เปลี่ยนใจหลังจากถูกโจมตีโดยกลุ่มนักฆ่าที่เรียกตัวเองว่า Nihilists กลุ่มที่เชื่อว่ามนุษย์ควรถูกทำลายล้างและตั้งใจที่จะใช้ Evan เพื่อจุดประสงค์นั้นให้ได้ ทำให้อีวานต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังของเขาให้ได้ก่อนที่จะถูกไล่ล่าจาก Nihilists ซึ่งก็ได้รับการช่วยเหลือจากสองสมาชิก Infinite คือ Nora Brightman และ Bathurst ในการต่อการกับฝั่งร้ายครั้งนี้
นี่คือหนังแอ็คชั่นที่ขายฉากบู๊แบบเต็มๆ ไม่มีกั๊ก ซึ่ง Infinite ถือว่าทำได้สนุกและตื่นเต้นมากๆ มีการไล่ล่าทั้งการต่อสู้ด้วยอาวุธ และฉากต่อสู้ด้วยพลังเหนือธรรมชาติจากอีวานพระเอกของเรื่อง หรือฉากแอ็กชันบางฉากที่บอกเลยว่าไม่ได้มาแค่ยืนต่อสู้ปล่อยพลังแล้วก็จบๆ ไป แต่จะมีความซับซ้อนในการใช้กึ๋นของตัวละคร เราจะได้เห็นการต่อสู้ที่ชิงไหวพริบกันเยอะมากในเรื่องนี้ ทั้งการเจรจาต่อรอง และชั้นเชิงในการตั้งรับและบุกทะลวงจู่โจมฐานของศัตรู เช่น ฉากไล่ล่าด้วยโดรน 3 มิติ และฉากต่อสู้บนรถไฟ ที่ตื่นเต้นและลุ้นระทึกมากทีเดียว
Infinite เป็นภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟที่ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง แม้พล็อตเรื่องจะถือว่าคล้ายกับหนังไซไฟหลายๆ เรื่องก็ตาม แต่ด้วยการที่แลกมาด้วยบทแอ็คชั่นที่ทำได้ดีกว่าหลายเรื่องแล้วนี่ก็ถือว่าพอรับได้เลยทีเดียว มีความมันส์ ตื่นเต้น ลุ้นระทึก ผสมผสานกับความเป็นไซไฟที่อาจจะไม่ได้ใหม่แต่ก็นำเสนอในอีกมุมมองหนึ่งได้สนุกและน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชม