รีวิว Dark Cloud (2022) ดาร์ก คราว
Dark Cloud ภาพยนตร์ไซไฟสุดสยองระทึกขวัญ ที่เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่เข้าร่วมโครงการทดลองด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนสภาพร่างกายพังยับแทบกลับมาปกติไม่ได้ จนเธอได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการที่ว่านี้เพื่อหวังจะมีชีวิตปกติสุขแบบเดิมกลับมาอีกครั้งให้ได้
หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง โคลอี้ (แสดงโดย Alexys Gabrielle) หญิงสาววัย 25 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียความทรงจำ ซึ่งเธอได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับโครงการทดลองด้านปัญญาประดิษฐ์ ของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่หวังจะพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยได้
ทำให้เธอนั้นถูกควบคุมโดย AI นามว่า AIDA (แสดงโดย Emily Atack) ซึ่งสามารถสื่อสารกับเธอได้โดยตรงผ่านอุปกรณ์สวมใส่บนศีรษะบางอย่าง AIDA ค่อยๆ ทำการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจของโคลอี้ให้กลับมาเป็นปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนั้นโคลอี้ก็เริ่มสงสัยว่า AIDA แท้จริงแล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่เพราะดูเหมือนว่าความลับบางอย่างค่อยเปิดเผยมาเรื่อยๆ
เมื่อโคลอี้เข้าสู่โครงการทดลอง AIDA ก็เริ่มฟื้นฟูร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่สามารถฟื้นฟูความทรงจำของเธอได้ ทำให้โคลอี้เริ่มรู้สึกอยากรู้ความจริงจึงได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่กลับพบว่าไม่มีบันทึกใดๆ เกี่ยวกับเธออยู่ในระบบของโรงพยาบาลเลยแม้แต่นิดเดียว
ความสงสัยเริ่มเพิ่มมากขึ้นเพราะเอไอตัวนี้ควบคุมทุกอย่างในชีวิตของเธอจนไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตนเอง แม้แต่การเคลื่อนไหวหรือความคิดแถมยังปฏิเสธการให้ข้อมูลใดๆ อีกด้วย เรื่องราวดำเนินไปอย่างเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโคลอี้เริ่มค้นพบความจริงเกี่ยวกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เบื้องหลังโครงการทดลองว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของเธอ แต่มีเป้าหมายที่ชั่วร้ายยิ่งกว่านั้น
นี่ถือว่าเป็นหนังไซไฟที่มีพล็อตเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ด้วยการเล่นกับเอไอที่แน่นอนว่าก็มีในหนังเรื่องอื่นๆ มาเยอะก็จริง แต่การที่ผู้กำกับสามารถเล่าเรื่องราวด้วยการให้ตัวละครหลักค่อยๆ ไขปริศนาไปเรื่อยๆ แก้ปมต่างๆ ที่สภาพความทรงจำถูกลืมหายไปหมด จนพบความจริงทีละชิ้นๆ รวมกลายเป็นจิ๊กซอว์ทั้งหมดที่เปิดเผยความทรงจำของเธอได้แล้ว ตรงจุดนี้เองที่ทำให้คนดูนั้นอยากดูต่อเรื่อยๆ จนถึงจุดพีคของเรื่องได้แบบไม่น่าเบื่อเลย
ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้จะเน้นหนักไปที่การขายคอนเส็ปต์ของเอไอเป็นหลัก เราจะได้เห็นประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับปัญญาประดิษฐ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้เหมือนกันกับบริษัทดังกล่างที่แอบอ้างและปกปิดข้อมูลทั้งหมด ทั้งๆ ที่เป็นข้อมูลส่วนตัวของผู้ป้วยด้วยซ้ำ
ด้านงานและฉากซีจีต่างๆ ก็ถือว่าทำออกมาได้ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียว อาจจะไม่ได้มีฉากบู๊ระห่ำแต่การใช้ซีจีในการสร้างฉากวิชวลเอฟเฟกต์นี่ก็ถือว่าอลังการดีทีเดียว เราจะได้เห็นจินตนาการของผู้กำกับที่อยากสื่อว่าเทคโนโลยีสุดก้าวล้ำในอนาคตนั้นมีอะไรให้เราได้ว้าวกันบ้าง แถมกันซาวด์ต่างๆ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศของเรื่องราวในแต่ละฉากได้อย่างน่าขนลุกจริงๆ
โดยรวมแล้วก็นับว่าเป็นหนังไซไฟที่เน้นขายความสยองขวัญ ความระทึกขวัญของเทคโนโลยีล้ำหน้าอนาคตที่มนุษยชาติต้องพึงระวังเอาไว้ ทำให้เราได้เห็นอีกหลายแง่มุมที่นำเสนอออกมา ส่วนเรื่องความสนุกนั้นก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว มีความน่าติดตามจากการที่แก้ปมปริศนาผ่านตัวละครหลักไปที่ละจุดๆ จนขมวดเป็นสรุปในตอนท้ายที่พีคทีเดียว Dark Cloud เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรรับชม